วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คำครุ ลหุ


เสียงหนักเบา(ครุ ลหุ
การเน้นเสียงหนักเบาในภาษาไทย  มีสาเหตุมาจาก

1. 
ลักษณะส่วนประกอบของพยางค์
  
คำครุ  คือ พยางค์ที่ลงเสียงหนัก  มีหลักสังเกตดังนี้
     1. เป็นพยางค์ที่ไม่มีเสียงพยัญชนะท้าย เสียงสระเป็นเสียงยาว 
     2. เป็นพยางค์ที่มีพยัญชนะท้าย เสียงสระเป็นเสียงยาวหรือเสียงสั้นก็ได้
     3. เป็นพยางค์ที่มีตัวสะกดทุกแม่
คำลหุ คือ พยางค์ที่ลงเสียงเบา  มีหลักสังเกตดังนี้
1.   เป็นพยางค์ที่ไม่มีเสียงพยัญชนะท้ายและมีสระเสียงสั้น 
2.       ก็    บ่  

 

ข้อควรสังเกต  

     1. สระ ไอ ใอ เอา เป็นสระเสียงสั้น ตามรูปไม่มีพยัญชนะท้าย  แต่การออกเสียงสระ ไอ ใอ มีเสียง  /เป็นเสียงพยัญชนะท้าย และสระเอา มีเสียง /เป็นเสียงพยัญชนะท้าย พยางค์ที่ประสมสระไอ ใอ เอา จึงจัดเป็นคำครุ (เน้นเสียงหนัก)
     2. สระอำ  ตามรูปไม่ปรากฎพยัญชนะท้าย แต่ออกเสียงมี/เป็นเสียงพยัญชนะท้ายจึงจัดเป็นคำครุ เช่นเดียวกับสระ ไอ ใอ เอา   แต่ในคำประพันธ์ประเภทฉันท์ อาจใช้เป็นคำครุบ้าง หรือลหุบ้างแล้วแต่ตำแหน่งของพยางค์ ถือ ถ้าเป็นคำพยางค์เดียวที่ใช้สระอำ  เช่น นำ  จัดเป็นคำครุ  และคำหลายพยางค์ที่มีสระอำเป็นพยางค์ท้าย เช่น ระกำ เป็นคำครุ แต่ถ้าสระอำเป็นพยางค์แรกของคำหลายพยางค์ จะใช้เป็นคำลหุ
หลักท่องจำ
 ครุ
ลหุ
ตัวสะกด
ทุกมาตรา
-
สระ
เสียงยาว(ถ้าไม่มีตัวสะกด)เสียงสั้น
รวมถึง
อำ ไอ ใอ เอา ฤา
ณ ธ ก็ บ บ่ ฤ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น